อาการของโรคตับแข็งในผู้ป่วยระยะแรกเริ่ม มักไม่มีอาการผิดปกติ ส่วนใหญ่ตรวจพบโดยบังเอิญ โดย
อาจมีอาการอ่อนเพลีย หมดแรง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ น้ำหนักตัวลด เป็นต้น ถ้ารุนแรงมากขึ้น อาจจะ
สังเกตพบว่าผิวหนังและตาขาวของผู้ป่วยจะมีสีเหลือง ผู้ป่วยอาจมีอาการท้องมานน้ำและขาบวม ฝ่ามือมี
สีแดงเข้มผิดปกติ พรายย้ำช้ำเขียวตามผิวหนัง มักเกิดบริเวณหน้าอก และหัวไหล่ นอกจากนั้นอาจเกิด
ภาวะแทรกซ้อน ติดเชื้อง่าย อาจมีอาการทางสมองเช่น ซึม สับสน ความทรงจำเสื่อม ขาดสมาธิ จนถึง
ขั้นไม่รู้สึกตัว
ตับ เป็นอวัยวะที่ช่วยขจัดสารพิษและเชื้อโรคออกจากร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับโรคติด
เชื้อ สร้างโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบในการทำให้เลือดแข็งตัว ตลอดจนสร้างน้ำดี ซึ่งมีหน้าที่ช่วยการดูด
ซึมไขมันและวิตามินชนิดละลายในน้ำมัน เมื่อตับถูกทำลายจนไม่สามารถทำงานได้เช่นเดิมอีกต่อไป
ทำให้เกิดเป็นโรคตับแข็ง โรคร้ายที่คร่าชีวิตประชากรโลกด้วยความทุกข์ทรมานเฉลี่ยปีละ 25,000 คน
โรคตับแข็งเป็นสภาวะตับที่เกิดแผลขึ้นหลังจากมีการอักเสบของเนื้อตับ และเกิดพังผืดแข็งแทรกในตับ
ทำให้การไหลเวียนของเลือดไม่สะดวกเนื่องจากถูกอุดกั้น
อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยโรคตับแข็ง อาจแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ อาการที่เกิดจาก
การทำงานของตับลดลง และ อาการที่เกิดจากความดันเลือดในตับสูง

อาการที่เกิดจากการทำงานของตับลดลง เช่น อาการ
อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย จะค่อย ๆ เกิดขึ้นโดยไม่ค่อยรู้สึกตัว เริ่ม
แรกจะมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ท้อง
อืดเฟ้อ คลื่นไส้ และอาจมีอาการอาเจียนเป็นบางครั้ง รู้สึกเจ็บ
บริเวณชายโครงขวาเล็กน้อย หากอาการมากขึ้นจะมีการสร้าง
โปรตีนลดลง ทำให้เท้าบวม มีน้ำในช่องท้อง เกิดท้องมาน อาจมี
อาการตัวเหลือง ตาเหลืองเป็นดีซ่านได้
อาการที่เกิดจากความดันเลือดในตับสูง
เกิดจากพังผืดดึงรั้งในตับ ทำให้การไหลเวียนของเลือดผิดปกติ เกิดเส้นเลือดขอดใน
หลอดอาหาร ผู้ป่วยอาจมาด้วยอาการอาเจียนเป็นเลือด เนื่องจากเส้นเลือดที่หลอดอาหารขอดแล้วแตก
ซึ่งอาจถึงช็อกและเสียชีวิตได้ ในรายที่เป็นมากอาจซึม หรือในระยะยาวอาจเกิดมะเร็งตับได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น